บทความรีวิวนี้เกิดจากความสงสัย งงงวย แปลกใจ งงใจ ว่าทำไม คุณแฟนถึงได้บ้าคลั่งกะเป๋าแบรนด์ FREITAG ได้ขนาดนี้ เอาจริงๆ ตอนแรกที่เริ่มได้ยินชื่อแบรนด์นี้จากปากแฟน พร้อมกับราคาที่ฟังแล้วตกใจ เห้ย! กระเป๋าราคาหลายพันที่ซื้อมาก็เก่าเลย แถมราคาขนาดนี้แทนที่จะไปซื้อกระเป๋าหนังดีๆ แต่มาเอาผ้าใบพลาสติกเก่าๆเยินๆ กลิ่นเหม็นตุๆ เนี่ยนะ!! ไม่อิน! ไม่โอเคอย่างแรง ว๊อททท !
กระเป๋าไรฟะ ซื้อมาก็เก่าเลย
ด้วยความสงสัยอย่างแรง เลยทำให้นี่ไปเสิร์ชหาข้อมูลยกใหญ่ ไหนดูหน่อย ว่าแบรนด์มันเป็นมายังไง ทำไมมันถึงได้ฮิตในหมู่วัยรุ่นและเหล่าคนเก๋ๆ ฮิปสเตอร์ได้ขนาดนี้! แต่เอาจริงๆ นะ พอได้ลองอ่านข้อมูลและทำความเข้าใจถึงได้พอร้องอ๋อ ก็คอนเซ็ปต์แบรนด์มันโคตรเก๋ และปรัชญาอันแรงกล้าที่สตรองแบบสุดๆ ทำให้กระเป๋าแบรนด์นี้มันครองใจคน(ฮิปๆ)เกือบทั้งโลก
เล่าคร่าวๆ แบบรวดรัด ไอเดียเริ่มมาจาก สองพี่น้อง Daniel และ Markus Freitag ที่มองหากระเป๋าสะพายไว้ส่งของที่ทนทานและกันน้ำ ได้ปิ๊งไอเดียเอาผ้าใบคลุมรถบรรทุกที่แล่นผ่านหน้าของพวกเขาทุกวันมาใช้ ซึ่งนอกจากจะเป็นการรีไซเคิลแล้ว ยังได้วัตถุดิบที่ โคตรทน และกันน้ำ แถมสีสันสดใส ลวดลายแปลกตามาใช้ รวมกับสายกระเป๋าที่ประยุกต์มาจากสายเข็มขัดนิรภัยของรถ และเย็บขอบกระเป๋าจากยางในจักรยาน ซึ่งแน่นอนว่ากระเป๋าที่ตัดออกมาจะมีเพียงแค่ใบเดียวในโลก เพราะลายจะไม่มีวันซ้ำกันแน่นอน ถูกใจสายฮิปที่ไม่อยากซ้ำใครเข้าไปอีก แถมช่วยลดโลกร้อน สองเด้งกันไปเลย
FREITAG
ทุกครั้งที่เดินผ่าน ต้องขอแวะเข้าไปดูกระเป๋า FREITAG
ทุกครั้งที่แฟนเดินผ่านร้านที่มีช็อปหรือชั้นวางดีไซน์คุ้นตาแบบนี้ นางมักจะสะกิดและพุ่งตัวเข้าไปในร้านทันที อ๋อ! ก็เพราะไอเดียชิ้นเดียวในโลก และลวดลายที่ไม่มีวันเหมือนกัน ทำให้(เหยื่อ)ต้องแวะวนเวียนเข้าไปในร้านเสมอๆ เพื่อตามล่าหาลายที่ใช่ เหมือนกับการค้นหาสมบัติมิปาน จะบอกว่าตอนอยู่ในไทยก็แวะ อังกฤษก็แวะ ญี่ปุ่นก็แวะ ยุโรปก็แวะ แวะมันทุกครั้ง! แบรนด์นี้โคตรเก่ง!
เล่ามายืดยาว มาเริ่มรีวิวกระเป๋าในกรุของนางกัน นี่ว่าคอลเลคชั่นนี้มีความสนุกเล็กๆ ในการสะสม เพราะโพสต์(แฟน)เคยบอกว่าสีดำล้วนเป็นสีที่หาค่อนข้างยาก เวลาเจอก็อยากจะซื้อสะสมไว้ และถ้าเจอกระเป๋าที่มีคำว่า POST ก็อยากจะซื้อเก็บไว้เช่นกัน (ปัจจุบันยังไม่เจอที่ถูกใจ)
ซึ่งกระเป๋าแต่ละทรงก็มีชื่อรุ่น เดี๋ยวจะค่อยๆ ไล่ไปเลยทีละใบ
Leland
(ราคาขายในช็อปไทย 7,500 บาท / ราคาซื้อที่ช็อป Netherland 5,700 บาท)
สมาชิกใบแรกในกรุของดำ จุดเริ่มต้นการสะสม โพสต์ไปซื้อมาจากอัมสเตอร์ดัม (เมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์) ทรงนี้จอยว่าก็สวยเลยแหละ ถือก็ได้ สะพายก็ดูเท่ๆ ดี ตอนซื้อมาก็มีรอยข่วนนิดหน่อย แต่ก็ยังดูไม่เก่ามาก ช่วงแรกๆ ที่ได้มานางเห่อมากกกก ไม่ยอมวางพื้นด้วยนะจ้า ผมนี่หมันไส้เลย แต่ก็เหมาะกับนางดี
Pete
(ราคาขายในช็อปไทย 9,100 บาท / ราคาซื้อที่ช็อป Netherland 6,400 บาท)
ใบนี้ค่อนข้างพีค เพราะถือว่าราคาซื้อขายในไทยพุ่งไปเกือบแตะหลักหมื่น นางเซอร์ไพรซ์บอกว่าใบนี้ซื้อมาฝาก (ตอนแรกแอบกรี้สร้องอยู่ในใจ ให้สาวน้อยสะพายกระเป๋าเป้แมนๆ แบบนี้ได้ยังง๊ายยย) แต่เอาจริงๆ พอเป็นกระเป๋าผ้าใบ น้ำหนักมันก็ค่อนข้างเบา จุของได้เยอะ นี่ลองใช้สำหรับแบกคอมแบกกล้องไปทำงานที่ต้องลุยๆ วิ่งๆ ทั้งวันก็เวิร์คอยู่นะ แต่กลิ่นตุๆ ของพลาสติกนี่ยังไงจอยก็ไม่อินเด้อ!
Caroline
(ราคาขายในช็อปไทย 4,900 บาท Pronto สาขา Central ลาดพร้าว)
ใบนี้ก็พานพบแบบงงๆ เหมือนชะตาจะต้องกัน เพราะวันนึงที่ไปเดินเล่นกันที่เซนทรัลลาดพร้าว นางก็สะกิดขอเข้าไปอัพเดทในช็อป Pronto เหมือนที่เคยทำเป็นประจำ วินาทีที่ก้าวเข้าร้าน คือเห็นกระเป๋าสตางค์สีดำใบนี้ วางโว์หลาอยู่หน้าสุด ฮีก็ตาวาวเข้าไปลูบๆ คลำๆ พร้อมกับคนขายที่ฮุคประโยคเด็ดเข้าที่กกหูซ้ายว่า “ของเพิ่งวาง เมื่อกี้เลยครับ สีดำหายากนะพี่”
จะเหลือหรอ นี่ก็เลยเชียร์ ทั้งๆ ที่ปกติก็ไม่ค่อยจะอินนะกับแบรนด์นี้ “ถ้าไม่ซื้อตอนนี้ เดี๋ยวจะมาบ่นเสียดายทีหลังนะ สีดำหายากไม่ใช่หรอ ซื้อๆ ไปเถอะ” สุดท้ายก็รูดการ์ดจ่ายไปตามระเบียบ ดูนางแฮปปี้มากๆ ที่ได้กระเป๋าสตางใบนี้ นี่ก็ยิ้มไปด้วยเลย เพราะซื้อเสร็จปุ้ปก็มานั่งที่ร้านขนม ดูฮีค่อยๆ ดึงแบงค์ดึงบัตรออกมาเปลี่ยนใส่กระเป๋าสตางค์ใหม่ด้วยความเห่อ
อ่อ แล้วแบรนด์นี้เค้าไม่ใช่เล่นๆ นะจ้า เพราะจะมีใบเซอร์ฯ หรือใบรับรองกระเป๋าทุกใบด้วย สิ่งนี้เป็นสิ่งที่คุณแฟนย้ำนักย้ำหนาว่า “เธอห้ามทำหายนะ! เก็บมันไว้ดีๆ” นั่นก็เหมือนกับใบเซอร์ของกระเป๋าแบรนด์เนมที่ไว้ยืนยันของแท้และจะช่วยให้ราคาขายต่อไม่ตกนั่นเอง หน้าตาก็จะประมาณนี้ เป็นซองสีเขียวๆ ระบุชื่อรุ่นและหน้าตาของกระเป๋าชัดเจน
สรุปแล้วตอนนี้จอยก็พอจะเข้าใจ พอจะอินกับแบรนด์นี้บ้างละ กระเป๋ามันก็ดูทรงสวยดี ดีไซน์มาเก๋ ที่ไม่ชอบก็แค่ความเก่าและความเหม็นพลาสติกของมันเท่านั้นเอง แถมสไตล์ก็เหมาะกับคนเท่ๆ เก๋ๆ ถามว่าชอบไหม ก็ชอบนะ โดยเฉพาะคอนเซ็ปต์เบื้องหลัง และความสำเร็จของแบรนด์ มันเจ๋งมากเลย ความคิดจากการจุดประกายเล็กๆ สามารถขยายและเติบโตจนเป็นธุรกิจที่ส่งออกทั่วโลก แถมยึดมั่นอุดมการณ์รักษ์โลกที่น่าสนับสนุนมากๆ
ยอมมม เออออ ซื้อไปปปป เดี๋ยวจะแอบเอาไปขายเก็งกำไร! หวังว่าฮีจะไม่เปิดมาเห็นบทความนี้ ฮิฮิ!!!