“ถ้าคุณยังไม่เคยลองทำผมกับชาวญี่ปุ่นแท้ๆ เราขอให้คุณได้ลองสัมผัสซักครั้งในชีวิต”
วันนี้จอยมาทำสีผมที่ Hair Atelier Ador ซาลอนสไตล์ญี่ปุ่นสาขาสุขุมวิท 39 ค่ะ ซาลอนจะอยู่ในโรงแรม 137 Pillars Suites & Residence คือเลี้ยวเข้าซอยพร้อมศักดิ์มา ให้มองซ้ายมือเอาไว้เลย จะเห็นโรงแรมที่มีกำแพงหินสูงๆ เลี้ยวเข้าไปโลด ที่นี่มีที่จอดสะดวกสบาย
จอยจองบริการผ่านทางแอปพลิเคชั่น Gowabi เหมือนเคย ตอนนี้มีโปรทำสีผมลดราคาอยู่ด้วย เลยทำให้ตัดสินใจได้ไม่ยาก มีชื่อร้านนี้เด้งขึ้นมาแรกๆ กดปุ้ป เลื่อนลงไปดูหมวดทำสีผม จองช่วงเวลา ตัดบัตรเครดิตเรียบร้อย (หรือมีช่วงทางการชำระอื่นๆ ด้วย เอาที่สะดวกได้เลย) แล้วก็รอพุ่งตัวมา ทั้งง่ายและสะดวกมากๆ
หลังจากกดลิฟท์ขึ้นมาที่ชั้น 6 ก็จะพบกับซาลอนบรรยากาศไม่เล็กไม่ใหญ่ กลิ่นไอของร้านทำผมสไตล์ญี่ปุ่น มีโต๊ะยาวติดผนังเรียบๆ และกระจกบานใหญ่ 3 บานตั้งอยู่ แว่บแรกที่เดินเข้ามา ก็เจอช่างทำผมและผู้ช่วยของเขายืนรอต้อนรับอยู่ด้วยรอยยิ้ม
คุณโชซัง (Shogo Hida) เป็นคนที่จะมาละเลงหัว(ผม)ของจอยในวันนี้ค่ะ ก่อนอื่นคุณโชซังก็จะเชิญเราไปนั่งเก้าอี้ พร้อมพูดคุยกว่าต้องการทำอะไรบ้าง ประมาณไหน สียังไง ดูสภาพเส้นผม และให้คำแนะนำ เอาจริงตอนแรกแอบตกใจ เค้าพูดภาษาไทยได้!! แต่ลุคนี่คือคนญี่ปุ่นแท้ๆ 100% เขาเล่าให้ฟังว่าเค้ามาทำงานที่ไทยได้ประมาณ 4 ปีแล้ว เป็นช่างทำผมตั้งแต่อายุ 14 ที่ญี่ปุ่น ประสบการณ์กว่า 20 ปี ตอนนี้มาประจำอยู่ที่ไทยเพราะชอบเมืองไทย (แถมย่านนี้ก็มีลูกค้าชาวญี่ปุ่นเพียบ)
จอยอยากทำสีโทนชมพู-แดง-น้ำตาล โดยไม่อยากกัดผมเพราะกลัวผมเสีย คุณโชซังก็นิ่งไปซักพักนึง เหมือนกำลังครึ่นคิด แล้วสุดท้ายก็บอก ไฮ! ได้ครับ 5555555
เข้าสู่ขั้นตอนการสระผม ที่นี่ใช้แชมพูสูตรเย็น รู้สึกสบายหัวมากๆ ผู้ช่วยซึ่งเป็นคนสระผมทำอย่างเบามือมากๆ ไม่ดึงรั้นเส้นผมให้เจ็บหนังหัวเลยแม้แต่น้อย มีการนวดหัวร่วมด้วย ฟินกันไปเลย
จากนั้นคุณโชซังก็เริ่มมาเล็มผมให้เข้าทรง ทุกการตัดและหวีทำอย่างปราณีตมากๆ เล็มทีละนิดจริงๆ (ไม่เหมือนช่างไทย บอกเอาออกนิดเดียว พี่แกล่อไปซะครึ่งหัว น้ำตาจะไหล) นี่เล่าให้โชซังถึงปัญหาของสาวไทยและช่างตัดผม เค้าก็หัวเราะ เอาจริง ถึงแม้ว่าคุณโชซังจะตัดผมไปเยอะจอยก็ไม่ซีเรียสเลย เพราะเชื่อฝีมือเค้ามาก การันตีด้วยประสบการณ์ 20 ปี พี่ตัดเลยค่าาา จอยว่าสวยแน่นอน
นั่งทำผมกันไปคุยกันไป เค้าอารมณ์ดีมากๆ พูดคุยได้ เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง การทำผมครั้งนี้เลยไม่เบื่อเลย การตัดสไตล์ญี่ปุ่นของที่นี่ เหมือนจะเล่มผมตอนที่ผมเปียกก่อนเล็กน้อย เป่าผมให้แห้ง จากนั้นก็ตัดทรงเพิ่มต่ออีก
จากนั้นก็เปลี่ยนผ้าคลุมค่ะ เริ่มทำการย้อมผมด้วย ช่างและผู้ช่วยก็ค่อยๆ แบ่งผมและลงน้ำยาไปทีละช่อ ไม่ลืมเอาพลาสติกมาคลุมหูกันเลอะให้ด้วย กลิ่นเคมีไม่ฉุน แรกๆแอบยุบยิบที่หนังหัวนิดหน่อย แต่พอทนได้ สบายๆ นั่งไปเพลินๆ เวลาก็ผ่านไปเกือบ 2 ชม.
รักเซอร์วิสของที่นี่มาก คือทุกอย่างจะทำอย่างเบามือ ไม่มีการดึง กระชาก ใดๆ ทั้งสิ้น นี่สินะความสุภาพของคนญี่ปุ่น
หลังจากย้อมสีผมเรียบร้อย ทิ้งไว้ระยะเวลานึง ผู้ช่ายก็เชิญจอยไปสระผม ตอนที่มาเป่าแห้งนี่แหละคือนาทีแห่งความลุ้น ว่าสีจะสม่ำเสมอไหม พอเป่าแห้งเรียบร้อยเท่านั้นแหละ ปลื้มใจสุดๆ เพราะสีติดสม่ำเสมอ ไม่ด่างเลยแม้แต่น้อย ทั้งโคมผม และปลายผม แถมผมยังดูละมุนขึ้น ด้วยสีที่ดูซอฟท์ยิ่งทำให้เส้นผมดูอ่อนเบานุ่มน่าสัมผัส ประทับใจค่ะ!! ตรงกับตัวอย่างรูปที่เรายื่นให้เค้าดูตอนแรกเลย
ลองกลับมาถ่ายรูปที่บ้าน คือสวยมากๆ ผมนิ่ม ปลายผมแห้งของจอยกลับมาดูสุขภาพดีเลย แถมนุ่มอีกต่างหาก สังเกตตอนล้างหน้า ปลายผมที่โดนน้ำ เอาผ้าเช็ดก็ไม่มีสีตกออกมาจนเลอะผ้าขนหนู ปลื้มสุดๆ
สรุปการมาทำผมที่นี่ บอกเลยว่าประทับใจเอามากๆ ในส่วนของราคา ค่าทำสีผมจะอยู่ที่ 3,380 บาทค่ะ (โปรจองผ่าน Gowabi จาก 5,200 ลด 30เปอร์ ทำสี ทรีทเม้นต์ ดัดผม) ที่นี่บริการดี เดินทางก็สะดวก เหมาะสำหรับสาวๆ ที่อยากจะมาทำผมเลย
ลูกค้าที่นี่ คุณโชซังบอกว่าเป็นคนไทยประมาณ 30% นอกนั้นเป็นคนญี่ปุ่นค่ะ! สุดท้ายนี้ต้องของคุณคุณโชโกะซังที่ได้มาดูแลผมของจอยในวันนี้นะคะ จะแวะมาหาอีกแน่นอน!