สวัสดีค่า จอยจี้เองค่ะ สำหรับบทความนี้จอยรวบรวมเอาโทนเนอร์ที่หาซื้อได้ง่ายมารีวิวให้ฟังกัน ซึ่งทั้ง 7 ตัวที่เลือกมาจะเป็นสูตรที่เน้นช่วยลดสิว ปรับผิวให้รู้สึกแข็งแรงขึ้น ที่จริงแล้วโทนเนอร์เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่หลายๆ คนมองข้าม เพื่อนจอยหลายคน (บางทีรวมทั้งจอยด้วย) รู้สึกว่าเช็ดผิวด้วยโทนเนอร์ยุ่งยาก บางทีก็ขี้เกียจ บางทีก็ลืม แต่มันช่วยปรับสมดุลผิวอละลดปัญหาผิวได้จริงๆ นะ
โทนเนอร์คืออะไร? ใครรู้จักโทนเนอร์แล้ว ข้ามย่อหน้านี้ไปก็ได้ จอยจะรีแคปให้สั้นๆ เลย ว่าโทนเนอร์ส่วนใหญ่ จะมีคุณสมบัติในการช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ปรับสมดุลผิว (ปรับค่าpH) เช็ดความมันหรือสิ่งสกปรกที่ยังตกค้างในรูขุมขนและช่วยคงความชุ่มชื้นบนผิว เรียกได้ว่าเป็นขั้นตอนแรกที่ช่วยเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นต่อๆ ไปนั่นเอง
โทนเนอร์จำเป็นไหม? ส่วนตัว หลังจากศึกษาข้อมูลต่างๆ และประสบการณ์จากหลายๆ คน โทนเนอร์อาจจะไม่ใช่ไอเท็มที่สำคัญที่สุด (อย่างเช่นถ้ารีบมากๆ เราก็เน้นที่ มอยเจอไรเซอร์หรือกันแดด ก็จะดีต่อผิวที่สุด) แต่ทว่าโทนเนอร์ก็เป็นตัวเลือกที่ดี ที่จะช่วยทำให้การดูแลผิวดียิ่งๆ ขึ้นอีก อย่างถ้าเราล้างหน้าไม่สะอาด ขั้นตอนการเช็ดผิวด้วยโทนเนอร์ จะช่วยเช็ดเอาสิ่งตกค้างที่ยังหลงเหลืออยู่ได้หมดจดขึ้น แล้วหลังล้างหน้า ค่า pH บนผิวหน้าของเราส่วนใหญ่จะมีค่าเบสค่อนข้างสูง การเช็ดโทนเนอร์จะช่วยปรับค่าเหล่านี้ให้พอเหมาะกับการรับสารบำรุงของตัวบำรุงชิ้นถัดๆ ไปฮะ!
ดังนั้นแล้วถ้าเราเพิ่มขั้นตอนการเช็ดโทนเนอร์ไป แน่นอนว่ามีประโยชน์และส่งผลดีต่อการบำรุงผิวของเราแน่นอน แต่ว่าๆๆ จะเลือกโทนเนอร์ยี่ห้อไหนดี? วันนี้จอยเอามาแนะนำถึง 7 แบรนด์ด้วยกัน พร้อมเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละชิ้น ไปดูกันเลยจ้า

Clean & Clear Essentials oil-control Toner (186บาท/150ml)
เริ่มต้นด้วยโทนเนอร์ที่คุ้นเคยกันดี ถ้าเทียบขนาดแล้วแบรนด์นี้ขวดจิ๋วที่สุด โทนเนอร์เป็นสีอมฟ้านิดๆ เน้นช่วยความคุมความมัน ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันและไม่อุดตันผิว ช่วยเคลียร์สิวอุดตันและสิวอักเสบโดยลดและป้องกันการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย
ตัวนี้กลิ่นแอลกอฮอล์ค่อนข้างแรง แต่ช่วยตคุมมันได้ดีมากๆ เหมาะสำหรับผิวคนที่หน้ามันจัดๆ เน้นเช็ดบริเวณ T-zone จะช่วยทำให้ผิวมันระหว่างวันลดน้อยลง (คนผิวแห้งมากๆ อาจจะไม่แนะนำตัวนี้นะฮะ แต่ผิวมันคือลุยโลดดด!!) มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ด้วย
เหมาะกับสภาพผิวแบบไหน : ผิวมัน ถึงมันมากกกก มีปัญหาสิว

Simple Soothing Facial Toner (199บาท / 200ml.)
แบรนด์นี้โด่งดังมาจากที่อังกฤษ โดยจะเน้นดูแลผิวอย่างอ่อนโยน มีส่วนผสมของโปรวิตามินบี 3, 5 ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นขึ้นด้วย และมีสารสกัดจาก Witch Hazel ที่ช่วยกระชับรูขุมขน+ลดการระคายเคือง
ใครที่ไม่ชอบกลิ่นกวนใจ ตัวนี้แทบไม่มีกลิ่นเลย เช็ดหน้าแล้วสดชื่น สบายผิว ใครที่เพิ่งลองเริ่มใช้โทนเนอร์ เริ่มที่ตัวนี้ก่อนเลยก็ได้ เพราะใช้ง่าย Simple สมชื่อจริงๆ เน้นความสะอาดและอ่อนโยน
เหมาะกับสภาพผิวแบบไหน : แพ้ง่าย อยากได้โทนเนอร์ที่ไม่แรง ไม่สีไม่กลิ่นไม่แอล

Neutrogena Alcohol-Free Toner (186บาท /150ml.)
ตัวนี้สำหรับจอยคือเคยเห็นมานานมากกก นอกจากช่วยปรับสมดุลผิวและคลีนผิวแล้ว ตัวนี้ยังช่วยคงความชุ่มชื้นให้ผิวด้วย ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง นี่ชอบกลิ่นหอมของเค้านะ เช็ดแล้วสบายผิวดี หลายคนบอกว่าเป็นโทนเนอร์กันตายที่ถูกและดี
เหมาะกับสภาพผิวแบบไหน : ผิวธรรมดา-แห้ง อยากได้กลิ่นหอมนิดๆ แบบอ่อนโยน

Smooth E Babyface Acne Clear Whitening Toner (295บาท/150ml.)
เป็นอีกหนึ่งโทนเนอร์ที่เคลมเรื่องช่วยรักษาผิวเป็นสิว มีส่วนผสมที่ช่วยลดความมัน ลดสิวอย่าง 10-HDA Analoge, Sebacic Acid และ Willow Bark extract ซึ่งนอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของวิตามินบี3และE ที่ช่วยปรับผิวให้ใสขึ้น
ตัวนี้แอบมีทั้งน้ำหอมและแอลกอฮอล์เลย แต่เช็ดแล้วเย็นสบายผิวมากๆ ตัวนี้จอยว่าเหมาะสำหรับช่วงผิวที่เป็นสิวระยะท้ายๆ มันช่วยคุมมัน แถมทำให้รอยสิวดูจางขึ้น ผิวดูเรียบเนียนกระชับ
เหมาะกับสภาพผิวแบบไหน : ผิวมัน เป็นสิว อยากได้ความกระจ่างใส

Eucerin Acne-oil Control Pro Acne Solution Toner (810บาท/200ml.)
ตัวนี้ก็เห็นรีวิวในเน็ตพูดถึงบ่อยๆ โทนเนอร์ที่เน้นคนผิวมันเป็นสิวโดยเฉพาะ ช่วยลดความมันบนผิวพร้อมกับทำความสะอาดผิวได้ดีมากๆ พอไม่มีสิ่งอุดตัน โอกาสเกิดสิวก็จะลดลง ถึงแม้จะบอกว่าเหมาะกับผิวบอบบางแพ้ง่าย แต่ก็มีส่วนผสมของน้ำหอมและแอลกอฮอล์ด้วย ใครที่แพ้ง่ายมากๆ ก็ลองชั่งน้ำหนักดูจ้า
ส่วนตัวใช้แล้วโอเคกับกลิ่น (หอมดีอ่ะ) เช็ดแล้วผิวเย็นนน สบาย รู้สึกเคลียร์ผิวได้ดีเลย ตรงที่เป็นสิวอยู่ ปาดตัวนี้ลงไปก็ไม่ได้รู้สึกแสบอะไร สามารถเช็ดทับไปได้เลย รวมทั้งลดความมันบริเวณทีโซน
เหมาะกับสภาพผิวแบบไหน : ผิวมัน เป็นสิว

Thayers Natural Remedies Facial Toner (690บาท/355ml.)
โทนเนอร์จากฝั่งอเมริกาที่คนพูดถึงมาซักพักแล้ว เหมาะสำหรับคนผิวบอบบางแพ้ง่าย เน้นสารสกัดจากธรรมชาติ ช่วยกระชับรูขุมขนด้วย Rose Water เติมความชุ่มชื้นด้วยว่านหางจระเข้ และปรับสมดุลผิวลดการระคายเคืองด้วย Witch hazel ที่สำคัญไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ พาราเบนหรือน้ำหอม
ตัวนี้ช่วยเช็ดทำความสะอาดผิว เคลียร์รูขุมขน ทำให้ดูกระชับ ผิวดูละเอียดขึ้น กลิ่นกุหลาบหอมมากกกก ปกติจอยเกลียดกลิ่นกุหลายนะ แต่อันนี้มันแบบหอมอ่อนๆ ไม่ฉุน สบายผิวดี ไม่แห้งไว ผิวนุ่มๆ ดี
เหมาะกับสภาพผิวแบบไหน : ผิวมัน รูขุมขนกว้าง

Khaokho Talaypu Total Acne Clear Neem&Witch Hazel Toner ( 249บาท/150ml)
มาถึงโทนเนอร์ตัวโปรด เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย ตัวนี้เน้นสารสกัดจากธรรมชาติ 100% มีส่วนผสมหลัก 2 ชนิด คือ สะเดา ที่ช่วยลดการสะสมของแแบคทีเรียซึ่งอาจก่อให้เกิดสิว แล้วก็จะมีตัว Witch hazel ที่ช่วยในเรื่องการสมานผิวและลดการระคายเคือง ลดพวกสิวอุดตัน สิวผดได้ดี และช่วยให้สิวอักเสบแห้งไวขึ้น
ตัวนี้เช็ดแล้วสบายผิวดี ไม่มันเหนอะหนะ แต่ก็ไม่แห้งตึง สดชื่น เป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ไม่ใช่กลิ่นของน้ำหอมอ่ะ ฟิวธรรมชาติๆ ปาดแล้วไม่รู้สึกเย็นวาบ ไม่แสบผิว เพราะขวดนี้ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ใครที่มีปัญหาสิว หรือแพ้ง่าย แนะนำตัวนี้เลย เพราะรู้สึกอ่อนโยนจริงๆ
เหมาะกับสภาพผิวแบบไหน : ผิวมัน เป็นสิวง่าย เพราะแบรนด์นี้เค้าเน้นสารสกัดธรรมชาติ ไม่มีสารเคมี 12 ชนิด

จอยลองเอาทั้ง 7 แบรนด์มาเทียบเป็นตารางให้ดู ได้ออกมาประมาณนี้เลยจ้า

และทั้งหมดนี้ก็คือโทนเนอร์ทั้ง 7 ตัวที่จอยเอามาฝากเพื่อนๆ ทุกคน ซึ่งก็คัดมาแล้วว่าหาซื้อง่ายแถมช่วยเคลียร์ปัญหาผิวด้วย อยากให้เพื่อนๆ ทุกคนลองหันมาเช็ดโทนเนอร์กันนะ เพราะเวลาที่จอยสิวบุกนี่ ไอเท็มแรกที่นึกถึงเลยจริงๆ คือโทนเนอร์ เพราะผิวหน้าที่สะอาด จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ช่วยเคลียร์ปัญหาผิวเลยจริงๆ แถมช่วยให้ครีมแพงๆ ที่เราลงขั้นถัดไป เกิดประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ด้วย

หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ทุกคนนะค้า แล้วพบกันใหม่บทความหน้า แล้วเจอกันจ้า!!