Lancôme Advanced Génifique Sensitive
สวัสดีค่า จอยเองค่ะ วันนี้จอยจะเอาสกินแคร์ตัวใหม่ที่ใช้มาซักพักนึงมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้ฟังกันค่ะ ซึ่งคราวนี้ขอเปลี่ยนบรรยากาศ อาจจะไม่ได้มานั่งวิเคราะห์ส่วนประกอบหรือสารสกัดอันโดดเด่นให้ได้ฟังกัน เพราะตามจริงแล้วจอยก็ไม่รู้หรอกว่าสารอะไร ดียังไง รู้แค่ว่าผลลัพธ์หลังใช้น่ะ มันเป็นไงบ้าง! วันนี้เลยว่าจะมาแบบสบายๆ นั่งแชร์ความรู้สึกหลังใช้กันแบบชิวๆ ละกันเนอะ 5555 บวกกับเล่าประสบการณ์การดูแลผิวที่จอยทำมาจนถึงทุกวันนี้แล้วกันค่ะ เผื่อสภาพผิวของจอยจะตรงกับใครบางคนแล้วสามารถเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆ ได้บ้าง
พูดถึงเรื่องสภาพผิว เอาตรงๆ ยอมรับว่าไม่ได้เป็นคนมีปัญหาผิวแบบหนักหน่วง สภาพผิวจอยคือ ผิวมันเพราะชั้นผิวข้างในแห้งขาดน้ำ (ผิวไม่เคยแห้งเป็นขุย) แต่อาการที่เห็นบ่อยแบบชัดเจนคือ 1. หน้ามันระหว่างวัน 2. รูขุมขนกว้างที่บริเวณหน้าแก้ม 3.ผิวดูไม่เรียบเนียน และที่ไม่ชอบที่สุดคือ 4. รอยแดงบนหน้า โดยเฉพาะแก้มและระหว่างคิ้ว // สิวมาบ้าง ประปราย ช่วงใกล้จะช่วงวันนั้นของเดือน ส่วนใหย่จะเป็นสิวเล็กๆ นานๆ จะมีสิวเป้งๆโผล่มา 1 ครั้ง
เหมือนผิวจะดูไม่มีปัญหา แต่เวลาใช้ชีวิตจริงชอบแอบมองผิวคนข้างๆ แล้วนึกใจใจว่าอิจฉาผิวคนนั้นจังเลยน้า ดูเนียนๆ ใสๆ ไม่มัน แล้วกลับมามองกระจกดูผิวตัวเองด้วยความไม่มั่นใจ คือมันจะมีบางวันที่มีผิวแบบ Good Skin Day ประมาณว่าวันนี้ชั้นผิวดี แต่งอะไรก็ดูดีไปหมด กับวัน Bad Skin Day ที่มองกระจกแล้วรู้สึกว่าผิวดูโทรม หมอง ไม่เรียบเนียนเอาซะเลย แป้งที่ลงไว้ดันเป็นคราบอีก ฮือ อีกอย่างที่สังเกตุได้คือผิวแพ้ง่ายมาก คติของจอยคือมือห้ามจับหน้า เตือนตัวเองตลอด เพราะจับเมื่อไหร่สิวผดมา บางทีก็ผืนแดงขึ้นบ้าง คันหน้าบ้าง เรียกว่าไวต่อการแพ้มากๆ ไม่ชอบเลย (เคยนอนตักแฟน แล้วนางใส่เกงยีนส์ หน้าแนบไปแป้ปเดียว ขึ้นมาเป็นผื่นเลย //หรือเพราะมันไม่ค่อยซักเกงยีนส์ฟระ!)
จอยใช้สกินแคร์มาเยอะ นับว่าโชคดีที่จอยมาอยู่ในจุดที่มีโอกาสได้ลองสกินแคร์ที่หลากหลาย ทั้งซื้อเองบ้าง แบรนด์ส่งมาให้ลองบ้าง แต่มันก็คือดาบสองคนที่ทำให้เราต้องลองไปเรื่อยๆ ถ้าได้เจอสิ่งที่ถูกกับผิวก็ดีไป แต่ถ้าเจอสิ่งที่แพ้ ก็ต้องดูแลรักษากันไปตามระเบียบ ซึ่งตรงนี้จอยเรียนรู้มาเลยว่า อ่านรีวิวยังไงมันก็ไม่เท่าได้ลองเองจริงๆ จอยแนะนำเพื่อนไปหลายคนว่าถ้าอยากรู้ว่าสกินแคร์ตัวไหนดีจริง มันก็ต้องลงทุนซื้อมาลองจริงๆ (หรืออาจจะลองขอเทสเตอร์มาใช้ดูก่อน ถ้าเป็นไปได้นะ) เพราะสิ่งที่คนอื่นบอกว่าดี อาจจะไม่ดีกับเรา และสิ่งที่คนอื่นบอกว่าไม่ดี ก็อาจจะดีกับผิวเราซะอย่างนั้น (จอยเคยซื้อสกินแคร์แบรนด์ดังตาม Youtuber ที่คิดว่าผิวใกล้เคียงกันที่สุดแล้ว แต่จอยกลับแพ้ซะอย่างงั้น ขนาดซื้อยกเซ็ตปาดไปครึ่งหมื่นกว่าเลยทีเดียว อ็อค เจ็บนี้ไม่เคยลืม ค่อยๆ ซื้อทีละชิ้น อย่าขนาดสติแบบจอยนะทุกคน)
ออกเรือไปซะไกล วนกลับมาที่สกินแคร์ที่จอยใช้แล้วจุดประกายให้อยากมาเขียนรีวิวชิ้นนี้ดีกว่า ซึ่งก็คือ Lancôme Advanced Génifique Sensitive ตัวนี้เพิ่งออกมาใหม่และจอยก็ได้มีโอกาสไปร่วมงานเปิดตัวและทำ Mission เป็นตัวแทน 1 ใน 20 Blogger ที่ได้ลองผลิตภัณฑ์ตัวนี้ครั้งแรกในไทย (ตอนนั้นตื่นเต้นมากเด้อที่ได้รับเลือก)
เห็นแพกเกจครั้งแรก ก็แอบนึกในใจ ‘โห ดูแมนจัง’ 5555
Lancôme Advanced Génifique Sensitive
ความพิเศษของ Lancôme Advanced Génifique Sensitive คือเซรั่มที่มีความ ‘สด’ เพราะส่วนผสมสารสกัดถูกแยกบรรจุไว้ในหลอดสีฟ้า ซึ่งแบรนด์บอกว่าเป็นสูตรที่พัฒนาให้ดีขึ้นกว่ารุ่นคลาสสิกยอกนิยมของแบรนด์อย่าง Advanced Génifique ซึ่งคำเคลมตัวโตของโปรดักส์คือ เน้นช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวแพ้น้อยลง แข็งแรงขึ้น และให้ผิวของเราเป็นไปตามกลไกธรรมชาติ No More Bad Skin Day ซึ่งถามว่าตรงนี้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้หญิงที่มีสภาพผิวแบบจอยไหม สาว(ผิว)ขี้แพ้แบบจอยว่าค่อนข้างเข้าเป้าเลยทีเดียว
พูดถึงเรื่องราคาต่อปริมาณ จอยว่าก็แพงเอาเรื่อง 3,500 บาทต่อ 20 มล. แต่พอลองใช้ดูแล้วกลับใช้ได้นานถึง 2 เดือน ซึ่งก็ตรงกับข้อบ่งชี้ว่าควรใช้ให้หมดภายใน 2 เดือน (ปัจจุบันกดมาใช้แล้วประมาณ 30 ปั้ม เหลืออีกครั้งขวด รวมๆ ก็ใช้ได้ประมาณ 60+ ปั้ม) ซึ่งในการทาครั้งนึง จอยใช้แค่ 1 ปั๊มเท่านั้นเองก็สามารถทาได้ทั่วใบหน้าแล้ว ใช้แค่ตอนกลางคืนเท่านั้นค่ะ เพราะตอนกลางวันจะใช้เป็นตัวเซรั่ม Génifique รุ่นปกติ
หลังจากที่เราเปิดกล่องออกมา หยิบขวดขึ้นมากดและบิดเพื่อให้ส่วนผสมเข้ากัน และเขย่าจนกลายเป็นเนื้อเซรั่มสีฟ้าอ่อนใส (สามารถทำที่เคาน์เตอร์หรือทำเองที่บ้านก็ได้ค่ะ เค้าจะให้วงแหวนกระดาษมาเขียนวันที่เปิดเอาไว้ด้วย ช่วยเตือนให้เรารีบใช้ในช่วงที่เซรั่มยังคงความสดใหม่และประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุด)
จากนั้นก็เปลี่ยนหัวปั๊มก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ได้เซรั่มพร้อมใช้ที่สวยงามเลอค่าสุดๆ
เนื้อเซรั่มสีฟ้าใสมีความเหลวและลื่นมากๆ ลูบไปบนผิวจะรู้สึกเหมือนเซรั่มคลี่ตัวและเคลือบไปบนผิว ใช้ในปริมาณแค่นิดเดียวก็สามารถเกลี่ยไปได้ทั่วหน้าแล้วล่ะค่ะ ตอนทาจะรู้สึกลื่นๆ หน่อย พอซึมเข้าสู่ผิว จอยว่ามันก็ไม่รู้สึกเหนอะน่ะ และไม่ทิ้งความมันอะไรไว้เลยนะ เหมือนซึมเข้าไปเลย กลิ่นก็จะมีความแปลกๆ หน่อย เพราะด้วยความที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและสารที่อาจจะก่อให้เกิดการแพ้
หลังจากใช้มาอย่างต่อเนื่องซักพัก ไม่อยากยอมรับเลยว่ามันดีต่อผิว(แต่ไม่ดีต่อเงินในกระเป๋ามากๆ) และดีต่อใจมากๆ สิ่งที่เห็นชัดสุดคือรอยแดงที่ลดลง แบบรู้สึกได้จริงๆ รอยแดงระหว่างคิ้ว ศัตรูคู่อาฆาตของจอยมันลดลงไปเยอะมากๆๆๆๆ จนแทบจะไม่เห็นรอยแดง ตรงนี้คือดีใจน้ำตาไหล ผิวแข็งแรงขึ้นจริงๆ จากที่แพ้อะไรง่ายๆ ตอนนี้สู้ยิบตาสุด ผื่นเอย สิวผดเอย ไม่มีมาซักพักแล้ว แต่ในส่วนของรูขุมขนและหน้ามันยังไม่เห็นผลเท่าไหร่ ซึ่งตรงนี้จอยว่าการทาเซรั่มตัวนี้ ควรทาควบคู่กับสกินแคร์อย่างครีมที่เน้นให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวไปด้วย (กรณีคนที่มีผิวแห้งขาดน้ำแบบจอย) ผิวดูละเอียดขึ้น จนเดี๋ยวนี้พึ่งรองพื้นน้อยลงและหันมาตบแค่แป้งฝุ่นแทน (ชีวิตดีแงะ)
เป็นสกินแคร์ตัวแรกที่ลองแล้วคิดอย่างจริงจังว่าผิวเราถูกกับสิ่งนี้จริงๆ มีโอกาสสูงมาก ที่จะตั้งใจควักตังค์ซื้อมาใช้ต่อ
ยิ่งพอได้ใช้คู่กันระหว่างตัว Night (ซ้าย) และ Day (ขวา) แพ็คคู่ รู้เรื่อง นานๆ จะเจอสกินแคร์ที่ใช้แล้วเห็นผลแบบจริงจัง ช่วงนี้ขอใช้ต่อและรักเธอไปนานๆ
Lancôme Advanced Génifique Sensitive (20ml/3,500บาท)
Lancôme Advanced Génifique (30ml/3,900บาท)
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ นะคะ ใช้สกินแคร์ที่เหมาะกับผิวของตัวเอง ดูแลรักษาเค้าดีๆ จะได้มีผิวที่สวยสดใสแข็งแรงไปนานๆ แล้วพบกันใหม่บทความหน้าจ้า